OFFICE IN GERMANY
OFFICE IN THAILAND

Opening hours / Monday – Friday / 09:00 – 18:00 / 24h Admin (Germany)

Call us now : +49 6122 9291199  ,  +66 2116 0309

ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

เรา “คาร์สท์ – กฎหมายและภาษี” (ต่อไปนี้คือ “คาร์สท์”) ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ของเรา ในฐานะที่เป็นสำนักงานกฎหมาย การใช้ข้อมูลของคุณอย่างปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเรา ดังนั้น เรามีความประสงค์ที่จะแจ้งให้คุณทราบถึงลักษณะการใช้ข้อมูลของคุณหากคุณตัดสินใจที่จะเข้าสู่พื้นที่เว็บนี้

 

I. ข้อกำหนด

การประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ ใช้ข้อกำหนดที่กำหนดไว้โดยสภานิติบัญญัติแห่งยุโรปของระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป (ต่อไปนี้คือ GDPR) การประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้อ่านและลูกค้าของเราสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ก่อนที่จะดำเนินการตามคำชี้แจงจริง โปรดคำนึงถึงเงื่อนไขต่อไปนี้

ข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงข้อมูลใดๆที่ชี้เฉพาะตัวบุคคล หรือสามารถบ่งชี้ลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคล ซึ่งหมายถึงบุคคลธรรมดา (เจ้าของข้อมูล) บุคคลธรรมดาที่สามารถบ่งชี้ลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคล คือบุคคลที่สามารถถูกบ่งชี้ได้โดยตรงหรือโดยอ้อม โดยการอ้างถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ หมายเลขประจำตัว ข้อมูลที่อยู่ ตัวระบุออนไลน์ หรือ ปัจจัยหนึ่งหรือหลายปัจจัยที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับทางกาย ชีวภาพหรือกายภาพ พันธุกรรม จิตใจ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม หรือสังคม

            ก) บุคคลที่ได้รับผลกระทบ คือ บุคคลธรรมดาทุกคนที่ชี้เฉพาะตัวบุคคลหรือสามารถบ่งชี้ลักษณะที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกประมวลผลโดยฝ่ายรับผิดชอบในการประมวลผลข้อมูล

            ข) การประมวลผลหมายถึง การดำเนินงานหรือการดำเนินการใดๆที่ทำขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือในชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติ เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดการอย่างเป็นระบบ การปรับปรุงโครงสร้าง การเก็บรักษา การดัดแปลงหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไข การเรียกค้น การให้คำปรึกษา การใช้ การเปิดเผยโดยการส่งผ่าน การเผยแพร่ หรือวิธีการอื่นที่ ทำให้มีอยู่ การจัดตำแหน่งหรือการรวมกัน การจำกัด การลบออก หรือการทำลาย

             ค) ข้อจำกัดในการประมวลผล หมายถึง การทำเครื่องหมายข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพื่อจำกัดการประมวลผลในอนาคต

             ง) การรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการทราบรายละเอียด หมายถึงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติด้วยวิธีการใดๆ ประกอบด้วยการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในการประเมินแง่มุมด้านบุคคลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดา โดยเฉพาะเพื่อการวิเคราะห์หรือคาดการณ์แง่มุมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของบุคคลธรรมดานั้นที่ทำงาน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สุขภาพ ความชอบส่วนบุคคล ความสนใจ ความเชื่อถือได้ พฤติกรรม ที่ตั้งหรือการเคลื่อนย้าย

              จ) การใช้นามแฝง หมายถึง การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่สามารถที่จะระบุถึงเจ้าของข้อมูลโดยปราศจากการใช้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยข้อมูลเพิ่มเติมนั้นจะถูกเก็บแยกต่างหาก และขึ้นอยู่กับวิธีการทางเทคนิคและทางองค์กรเพื่อทำให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่ถูกใช้ในการชี้เฉพาะตัวบุคคลหรือสามารถบ่งชี้ลักษณะที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคล

              ฉ) ผู้ควบคุม หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานหรือหน่วยงานอื่นที่ร่วมกันหรือร่วมกับผู้อื่นในการกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งวัตถุประสงค์และวิธีการประมวลผลถูกกำหนดโดยกฎหมายของสหภาพหรือรัฐสมาชิก ผู้ควบคุมหรือเกณฑ์เฉพาะในการแต่งตั้งอาจได้รับการกำหนดโดยกฎหมายของสหภาพหรือรัฐสมาชิก

              ช) ผู้ประมวลผล หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานหรือหน่วยงานอื่นที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของผู้ควบคุม
              ซ) ผู้รับ หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานหรือหน่วยงานอื่นที่ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเปิดเผยไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สามหรือไม่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม หน่วยงานของรัฐอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลในกรอบการไต่สวนโดยเฉพาะตามกฎหมายของสหภาพหรือรัฐสมาชิกจะไม่ถือว่าเป็นผู้รับ การประมวลผลข้อมูลโดยหน่วยงานของรัฐเหล่านั้นต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การป้องกันข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์ของการประมวลผล

              ฌ) บุคคลที่สาม หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานหรือหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของข้อมูล ผู้ควบคุม ผู้ประมวลผล และบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของผู้ควบคุมหรือผู้ประมวลผลได้รับอนุญาตให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

              ญ) การยินยอมของเจ้าของข้อมูล หมายถึง การแสดงความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลโดยอิสระ เฉพาะเจาะจง การบอกกล่าว และอย่างไม่น่าสงสัยโดยตัวเอง โดยข้อความ หรือโดยการยืนยันที่ชัดเจน ข้อตกลงที่มีความหมายเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวเอง

 

2. การเก็บรวบรวมข้อมูล

เว็บไซต์ของ “คาร์สท์” รวบรวมข้อมูลและข้อมูลทั่วไปจำนวนหนึ่งๆทุกครั้งที่เข้าถึงเวบไซต์โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือระบบอัตโนมัติ ข้อมูลและข้อมูลทั่วไปนี้จะถูกเก็บบันทึกไว้ในแฟ้มบันทึกของเซิร์ฟเวอร์ ข้อมูลดังต่อไปนี้อาจถูกบันทึกไว้
                ก) ประเภทเบราเซอร์ที่ใช้และเวอร์ชั่นที่เกี่ยวข้อง

                ข) ระบบปฎิบัติการที่ใช้โดยระบบการเข้าถึง

                ค) เว็บไซต์ที่ระบบการเข้าถึงเข้าสู่เวบไซต์ของเรา (ที่เรียกว่า ผู้อ้างอิง)

                ง) เพจย่อยนี้และการเข้าใช้งานระบบนำมาสู่เวบไซต์ของเรา

                จ) วันที่และเวลาและการเข้าถึงเวบไซต์ของเรา

                ฉ) ที่อยู่โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต (IP-address)

                ช) ผู้ให้บริการทางอินเทอร์เน็ตของระบบการเข้าถึง

                ซ) ข้อมูลและข้อมูลอื่นๆที่คล้ายคลึงกันซึ่งใช้เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากระบบไอทีของเรา

เมื่อใช้ข้อมูลทั่วไปและข้อมูลนี้ “คาร์สท์” ไม่ได้สรุปข้อสรุปเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ข้อมูลนี้ใช้เพื่อ
                  ก) แสดงเนื้อหาบนเวบไซต์ของเราอย่างถูกต้อง

                  ข) เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาและโฆษณาสำหรับเวบไซต์ของเรา

                  ค) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าระบบไอทีและเทคโนโลยีของเราสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องในเวบไซต์ของเรา

                  ง) ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่มีการโจมตีทางอินเทอร์เน็ต

ดังนั้น ข้อมูลและข้อมูลที่ไม่ระบุตัวนี้จึงได้รับการประเมินทางสถิติและต่อโดย “คาร์สท์” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการป้องกันข้อมูลและความปลอดภัยของข้อมูลในสำนักงานของเราเพื่อให้มั่นใจในระดับสูงสุดในการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่เราดำเนินการ ข้อมูลที่ไม่ระบุตัวของไฟล์บันทึกของเซิร์ฟเวอร์ถูกจัดเก็บแยกต่างหากจากข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่มีให้โดยบุคคลที่ได้รับผลกระทบ

 

3. บทบัญญัติทางกฎหมายหรือสัญญาสำหรับการให้ข้อมูลส่วนบุคคล, ความจำเป็นในการสรุปข้อตกลง, ความรับผิดชอบของบุคคลที่ได้รับผลกระทบในการให้ข้อมูลส่วนบุคคล, ผลที่เป็นไปได้ของการไม่ให้ข้อมูล

เรามีความประสงค์ที่จะชี้แจงว่าการให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด (เช่น กฎหมายภาษี) หรืออาจเป็นผลมาจากการจัดเตรียมสัญญา (เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับคู่สัญญา) บางครั้ง อาจจำเป็นสำหรับสัญญาที่จะสรุปกับบุคคลที่ได้รับผลกระทบว่าจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่เราซึ่งจะต้องประมวลผลโดยเราต่อไป ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ได้รับผลกระทบจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับเราเมื่อได้ทำสัญญากับทางสำนักงานของเรา การไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลจะทำให้สัญญากับบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่สามารถสรุปได้ ก่อนผู้ที่ได้รับผลกระทบจะให้ข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลนี้จะต้องติดต่อกับผู้ควบคุม สิ่งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างการให้คำปรึกษาครั้งแรกและในกรณีใดๆก่อนที่จะมาเป็นลูกค้า ผู้ควบคุมจะแจ้งให้บุคคลที่ได้รับผลกระทบทราบเป็นกรณีๆไปว่ากฎหมายหรือข้อสัญญานั้นจำเป็นต้องมีการจัดเตรียมข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่จำเป็นสำหรับการลงนามในสัญญา หากมีข้อผูกพันในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลและผลที่จะตามมาซึ่งเป็นผลมาจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

 

4. การติดต่อผ่านเว็บไซต์

เว็บไซต์ของ “คาร์สท์” มีข้อมูลที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้ลูกค้าบุคคลที่สามและบุคคลที่สามสามารถติดต่อกับสำนักงานของเราได้อย่างรวดเร็วและติดต่อกับเราได้โดยตรง ซึ่งรวมถึงที่อยู่ทั่วไป ซึ่งเรียกว่าจดหมายทางอิเล็คโทรนิค (อีเมล์) หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบติดต่อผู้ควบคุมโดยอีเมล์หรือผ่านแบบฟอร์มการติดต่อ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลจะได้รับการบันทึกโดยอัตโนมัติ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าลที่ถูกส่งผ่านโดยแต่ละบุคคลไปยังผู้ควบคุมโดยสมัครใจจะถูกเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผลและติดต่อกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ จะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้กับบุคคลที่สาม

 

5. การใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้ในหน้าต่างๆเพื่อให้การเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราน่าสนใจ และเพื่อให้สามารถใช้งานฟังก์ชันบางอย่างได้ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ของคุณ คุกกี้บางตัวที่เราใช้จะถูกลบหลังจากสิ้นสุดเซสชันของเบราเซอร์ นั่นคือ หลังจากปิดเบราเซอร์ (เรียกว่า คุกกี้เซสชั่น – session cookies). คุกกี้อื่นๆยังคงอยู่ในอุปกรณ์ของคุณและอนุญาตให้เราจดจำเบราเซอร์ของคุณในการเข้าชมครั้งถัดไปของคุณ (เรียกว่า คุกกี้ถาวร – persistent cookies). คุณสามารถตั้งค่าเบราเซอร์เพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการตั้งค่าคุกกี้ และแต่ละคนสามารถตัดสินใจที่จะยอมรับหรือไม่ยอมรับคุกกี้สำหรับกรณีเฉพาะหรือทั่วไป การไม่ยอมรับคุกกี้อาจทำให้ฟังก์ชันการทำงานของเวบไซต์ของเราเสียหาย

 

6. การใช้ Google (Universal) Analytics สำหรับการวิเคราะห์เว็บ

เว็บไซต์นี้ใช้ Google (Universal) Analytics ซึ่งเป็นบริการการวิเคราะห์เวบที่จัดทำโดยบริษัท Google Inc. (www.google.com). Google (Universal) Analytics ใช้วิธีที่อนุญาตให้มีการวิเคราะห์เวบไซต์ เช่น “คุกกี้” ซึ่งเป็นไฟล์ข้อความที่จัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยทั่วไปข้อมูลที่สร้างขึ้นเกี่ยวกับการใช้งานเวบไซต์นี้ของคุณจะถูกโอนไปยังเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิ้ลในประเทศสหรัฐอเมริกาและเก็บไว้ที่นั่น โดยการเปิดใช้งานการไม่ระบุตัวตน IP บนเวบไซต์นี้ ที่อยู่ IP จะถูกทำให้สั้นก่อนที่จะมีการส่งผ่านภายในประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป หรือประเทศที่ทำสัญญาอื่นๆของข้อตกลงเขตเศรษฐกิจยุโรป เฉพาะกรณีที่เป็นกรณีพิเศาเท่านั้นที่ระบบจะส่งที่อยู่ IP แบบเต็มไปยังเซิร์ฟเวอร์ของกูเกิ้ลในประเทศสหรัฐอเมริกาและถูกตัดให้สั้นลง ที่อยู่ IP ที่ไม่ระบุตัวตนที่ Google Analytics ให้ไว้ภายในขอบเขตของ Google Analytics จะไม่ถูกรวมกับข้อมูลอื่นที่กูเกิ้ลจัดให้

คุณสามารถป้องกันการรวบรวมข้อมูล (รวมถึงที่อยู่ IP ของคุณ) ที่สร้างขึ้นโดยคุกกี้และเกี่ยวข้องกับการใช้งานเวบไซต์ของคุณจากกูเกิ้ล ตลอดจนการประมวลผลข้อมูลโดยกูเกิ้ลโดยการดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอินของเบราเซอร์ที่มีอยู่ภายใต้ลิงค์ต่อไปนี้: http://wbs.is/rom89.

อีกทางเลือกหนึ่ง คุณสามารถคลิกที่ลิงค์นี้เพื่อป้องกันการติดตามของ Google Analytics ในอนาคตบนเวบไซต์นี้ คุกกี้เลือกไม่ใช้ (opt-out cookie) จะถูกเก็บอยู่บนอุปกรณ์ของคุณ หากคุณลบคุกกี้ คุณต้องคลิกลิงค์อีกครั้ง

 

7. นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้งานและการใช้ LinkedIn

ผู้ควบคุมได้รวมส่วนประกอบของ LinkedIn Corporation ไว้บนเว็บไซต์นี้ LinkedIn เป็นเครือข่ายทางสังคม (Social Network) บนอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมกับผู้ติดต่อทางธุรกิจที่มีอยู่และติดต่อทางธุรกิจใหม่ได้ ผู้ลงทะเบียนมากกว่า 400 ล้านคนใช้ LinkedIn ในกว่า 200 ประเทศ ทำให้ LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการติดต่อทางธุรกิจในปัจจุบันและเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่มีการเข้าชมบ่อยที่สุดในโลก

บริษัทที่ดำเนินการของ LinkedIn คือ LinkedIn Corporation, 2029 Stierlin Court Mountain View, CA 94043, USA. นโยบายความเป็นส่วนตัวนอกประเทศสหรัฐอเมริกาดำเนินการโดย LinkedIn Ireland, Privacy Policy Issues, Wilton Plaza, Wilton Place, Dublin 2, Ireland.

ทุกครั้งที่คุณเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราซึ่งมีส่วนประกอบของ LinkedIn (LinkedIn plug-in) ส่วนประกอบนี้ทำให้เบราเซอร์ที่บุคคลได้รับผลกระทบใช้เพื่อดาวน์โหลดการตัวแทนที่สอดคล้องกันของส่วนประกอบ LinkedIn คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LinkedIn plug-ins ได้ที่ https://developer.linkedin.com/plugins โดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางเทคนิคนี้ LinkedIn เรียนรู้เกี่ยวกับหน้าย่อยเฉพาะของเวบไซต์ของเราที่ผู้ได้รับผลกระทบเข้าชม

หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบถูกเข้าสู่ LinkedIn ในเวลาเดียวกัน LinkedIn จะจดจำหน้าย่อยที่บุคคลที่ได้รับผลกระทบเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราในแต่ละครั้งและช่วงเวลาทั้งหมดที่อยู่บนเว็บไซต์ของเราในแต่ละครั้ง ข้อมูลนี้ถูกรวบรวมผ่านทางส่วนประกอบของ LinkedIn และเชื่อมโยงโดย LinkedIn ไปยังบัญชี LinkedIn ที่ได้รับผลกระทบ หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบเปิดใช้งานปุ่ม LinkedIn ที่รวมอยู่ในเว็บไซต์ของเรา LinkedIn จะกำหนดข้อมูลนี้กับบัญชีผู้ใช้ LinkedIn ส่วนตัวของบุคคลที่เกี่ยวข้องและบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลนี้

LinkedIn มักจะได้รับข้อมูลผ่านทางส่วนประกอบ LinkedIn ที่บุคคลที่เกี่ยวข้องได้เข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราหากบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าสู่ LinkedIn ในเวลาที่เข้าสู่เวบไซต์ของเรา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยไม่คำนึงว่าบุคคลนั้นคลิกที่ส่วนประกอบของ LinkedIn หรือไม่ หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบไม่ต้องการให้ส่งข้อมูลนี้ไปยัง LinkedIn สามารถป้องกันได้โดยการออกจากบัญชี LinkedIn ก่อนเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

https://www.linkedin.com/psettings/guest-controls, LinkedIn มีความสามารถในการเลือกไม่รับข้อความอีเมล์ ข้อความ และโฆษณาที่ตรงเป้าหมายรวมทั้งการจัดการการตั้งค่าโฆษณา LinkedIn ยังใช้คู่ค้า เช่น Quantcast, Google Analytics, BlueKai, DoubleClick, Nielsen, Comscore, Eloqua และ Lotame ซึ่งสามารถตั้งค่าคุกกี้ คุณสามารถปฏิเสธคุกกี้ดังกล่าวได้ที่ https://www.linkedin.com/legal/cookie-policy นโยบายความเป็นส่วนตัวของ LinkedIn สามารถดูได้ที่ https://www.linkedin.com/legal/privacy-policy นโยบายคุกกี้ของ LinkedIn สามารถดูได้ที่ https://www.linkedin.com/legal/cookie-policy

 

8. นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้งานและการใช้ Twitter

ผู้ควบคุมได้รวมส่วนประกอบของ Twitter ไว้ในเว็บไซต์นี้ Twitter คือบริการบล็อกขนาดเล็กที่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะหลายภาษา ซึ่งผู้ใช้สามารถโพสต์และแจกจ่ายที่เรียกว่าทวีต (tweets) ซึ่งจำกัดไว้ที่ 140 ตัวอักษร ข้อความสั้นเหล่านี้สามารถใช้ได้กับทุกคนรวมถึงผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกTwitter การทวีตจะปรากฏแก่ผู้ติดตามของผู้ใช้ดังกล่าว ผู้ติดตามคือผู้ใช้ Twitter รายอื่นที่ติดตามการทวีตของผู้ใช้ Twitter ยังช่วยให้สามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหญ่ผ่าน hashtags, ลิงค์หรือ retweets.

บริษัทผู้ดำเนินการของ Twitter คือ Twitter, Inc., 1355 Market Street, Suite 900, San Francisco, CA 94103, USA

ทุกครั้งที่มีการเข้าถึงหน้าใดหน้าหนึ่งของเว็บไซต์นี้ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมและส่วนประกอบ Twitter ได้ถูกรวมไว้ (ปุ่ม Twitter) เบราเซอร์อินเทอร์เน็ตบนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะถูกเปิดใช้โดยอัตโนมัติตามส่วนประกอบ Twitter ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้เกิดการดาวน์โหลดการแสดงองค์ประกอบของ Twitter คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปุ่ม Twitter ได้ที่ https://about.twitter.com/en/resources/buttons ในการะบวนการทางเทคนิคนี้ Twitter จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับหน้าเวบเฉพาะของเวบไซต์ของเราที่บุคคลที่เกี่ยวข้องเยี่ยมชม วัตถุประสงค์ของการรวมส่วนประกอบ Twitter คือการอนุญาตให้ผู้ใช้ของเราแจกจ่ายเนื้อหาของเวบไซต์นี้เพื่อประชาสัมพันธ์เว็บไซต์นี้ในโลกดิจิตอล และเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม

หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบได้เข้าสู่ระบบ Twitter ในเวลาเดียวกัน Twitter จะรับรู้ว่าผู้ได้รับผลกระทบได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราในแต่ละครั้งและระยะเวลาทั้งหมดที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราในแต่ละหน้า ข้อมูลนี้จะถูกรวบรวมผ่านทางส่วนประกอบ Twitter และได้รับการกำหนดผ่านทาง Twitter ไปยังบัญชี Twitter ของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบเปิดใช้งานปุ่ม Twitter ใดๆที่รวมไว้บนเว็บไซต์ของเรา ข้อมูลและข้อมูลที่ส่งผ่านจะถูกกำหนดให้กับบัญชีผู้ใช้ Twitter ส่วนบุคคลของบุคคลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว และจัดเก็บและประมวลผลโดย Twitter

Twitter มักจะได้รับข้อมูลว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบได้มีการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราผ่านทางส่วนประกอบของ Twitter หากผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้าสู่ระบบ Twitter ในเวลาเดียวกับที่เข้าสู่เวบไซต์ของเรา ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ว่าผู้นั้นจะคลิกที่องค์ประกอบของ Twitter หรือไม่ก็ตาม หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบไม่ต้องการให้มีการโอนข้อมูลนี้ สามารถป้องกันการโอนข้อมูลนี้ได้โดยการออกจากระบบบัญชี Twitter ก่อนที่จะเข้าสู่เวบไซต์ของเรา

นโยบายความเป็นส่วนตัวของ Twitter ที่เกี่ยวข้องสามารถดูได้ที่ https://twitter.com/privacy?lang=en.

 

9. นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับการใช้งานและการใช้ Google+

ผู้ควบคุมได้รวมส่วนประกอบของ Google+ ไว้บนเวบไซต์นี้ Google+ เป็นเครือข่ายทางสังคม (Social Network) หนึ่ง เครือข่ายทางสังคมคือที่พบปะทางสังคมโดยทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์ที่มักจะทำให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกันเองและโต้ตอบกันในพื้นที่เสมือน เครือข่ายทางสังคมสามารถใช้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์หรืออนุญาตให้ชุมชนอินเทอร์เน็ตให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางธุรกิจ Google+ อนุญาตให้ผู้ใช้เครือข่ายสังคมสร้างโปรไฟล์ส่วนตัว อัพโหลดรูปภาพ และพบปะสังสรรค์ผ่านทางคำขอเป็นเพื่อน

บริษัทผู้ดำเนินการของ Google+’s คือ Google Inc., 1600 Amphitheater Pkwy, Mountain View, CA 94043-1351, USA.

ทุกครั้งที่มีการเข้าเยี่ยมชมหน้าหนึ่งบนเว็บไซต์นี้ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมและการรวมปุ่ม Google+ ทำให้บราวเซอร์อินเทอร์เน็ตในระบบของบุคคลที่ได้รับผลกระทบสามารถดาวน์โหลดการเป็นตัวแทนที่สอดคล้องกันของปุ่ม Google+ จาก Google ซึ่งจะถูกกระตุ้นโดยอัตโนมัติจากปุ่ม Google+ ตามลำดับ ในกระบวนการทางเทคนิคนี้ Google จะทราบว่าหน้าย่อยเฉพาะของเวบไซต์ของเราใดที่ผู้ได้รับผลกระทบเข้าเยี่ยมชม รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ https://developers.google.com/+/

หากบุคคลเข้าสู่ระบบ Google+ ในเวลาเดียวกัน Google จะรับรู้ว่าผู้ได้รับผลกระทบได้เข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราในแต่ละครั้งและระยะเวลาทั้งหมดที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราในแต่ละหน้า ข้อมูลนี้จะถูกรวบรวมผ่านทางปุ่ม Google+ และได้รับกำหนดจาก Google ไปยังบัญชี Google + ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องของผู้ที่ได้รับผลกระทบ

หากเจ้าของข้อมูลเปิดใช้งานปุ่ม Google + ใดๆ ที่รวมอยู่บนเวบไซต์ของเราและสร้างข้อเสนอแนะ Google + 1, Google จะส่งข้อมูลนี้ไปยังบัญชีผู้ใช้ Google + ส่วนตัวของผู้ได้รับผลกระทบและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนี้ Google จะจัดเก็บข้อเสนอแนะ Google + 1 ของผู้ได้รับผลกระทบและเปิดเผยต่อสาธารณชนตามเงื่อนไขที่ได้รับการยอมรับจากผู้ได้รับผลกระทบ การอ้างอิงของ Google +1 จากบุคคลที่ได้รับผลกระทบบนเวบไซต์นี้จะถูกส่งในภายหลังร่วมกับข้อมูลส่วนตัวอื่น เช่น ชื่อบัญชี Google + 1 account ที่ใช้โดยผู้ได้รับผลกระทบและรูปที่ถูกเก็บไว้ในบริการ Google อื่น ตัวอย่างเช่น ผลการค้นหาจากเครื่องมือค้นหาของ Google, บัญชี Google ของผู้ได้รับผลกระทบหรือที่อื่นๆ เช่น บนเวบไซต์หรือเกี่ยวกับการโฆษณาที่ถูกเก็บและประมวลผล นอกจากนี้ Google ยังสามารถเชื่อมโยงการเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์นี้กับข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่เก็บไว้บน Google และ Google ยังบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลนี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของบริการต่างๆของ Google

Google มักได้รับข้อมูลที่ผู้ได้รับผลกระทบเข้าเยี่ยมชมเวบไซต์ของเราโดยผ่านปุ่ม Google + หากผู้ได้รับผลกระทบเข้าสู่ระบบ Google+ ในเวลาเดียวกับที่เข้าสู่เวบไซต์ของเรา ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ว่าบุคคลนั้นจะคลิกปุ่ม Google + หรือไม่ก็ตาม

หากบุคคลได้รับผลกระทบไม่ต้องการให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยัง Google บุคคลดังกล่าวสามารถป้องกันการส่งผ่านนี้ได้ด้วยการออกจากระบบบัญชี Google + ก่อนเข้าสู่เวบไซต์ของเรา

ข้อมูลเพิ่มเติมและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google สามารถดูได้ที่ https://www.google.com/intl/en/policies/privacy/. ข้อควรพิจารณาของ Google เกี่ยวกับปุ่ม Google +1 สามารถพบได้ที่ https://developers.google.com/+/web/buttons-policy.

 

10. การแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง

การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายหรือการเปลี่ยนแปลงกระบวนการภายในของเราอาจจำเป็นให้เกิดการปรับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เราจะแจ้งให้คุณทราบภายในไม่เกิน 6 สัปดาห์ก่อนวันที่มีผลบังคับใช้

คุณมีสิทธิ์ที่จะเพิกถอนความยินยอมโดยทั่วไป (ข้อ12) โปรดทราบว่านโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันมีผลใช้บังคับ (เว้นแต่คุณจะใช้สิทธิถอนตัว)

 

11. การปรับปรุง / การลบข้อมูลส่วนบุคคล

คุณมีโอกาสที่จะตรวจสอบ เปลี่ยน หรือลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้กับเราโดยการส่งอีเมล์มาที่ที่อยู่อีเมล์ info@karst.legal เมื่อใดก็ได้

เช่นเดียวกัน คุณมีสิทธิที่จะเพิกถอนการยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้โดยมีผลต่ออนาคต

การลบของข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรักษาไว้จะเกิดขึ้นเมื่อคุณเพิกถอนการยินยอมให้จัดเก็บข้อมูล (ข้อ 12)

ผู้ควบคุมจะประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ได้รับผลกระทบเฉพาะในช่วงเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บหรือตามความเหมาะสมตามที่กำหนดไว้ในระเบียบหรือข้อบังคับของสหภาพยุโรปหรือกฎหมายอื่นใดในกฎหมายหรือข้อบังคับซึ่งผู้ควบคุมอยู่ภายใต้

ถ้าวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บข้อมูลไม่สามารถใช้งานได้หรือถ้าระยะเวลาเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยระเบียบและข้อบังคับของยุโรปหรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องจะทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกล็อคหรือถูกลบตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

12. สิทธิของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ

บุคคลที่ได้รับผลกระทบแต่ละคนมีสิทธิ์ตามที่ได้รับจากสภานิติบัญญัติแห่งยุโรปของระเบียบและข้อบังคับเพื่อกำหนดให้ผู้ควบคุมควบคุมยืนยันว่ามีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่ หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบประสงค์จะใช้สิทธิ์ยืนยันนี้พวกเขาสามารถติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา

บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะมีสิทธิ์ที่ได้รับจาก European Directive and Authority Regulatory Authority เพื่อขอรับข้อมูลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้เกี่ยวกับตัวเขาและสำเนาของข้อมูลนั้นจากจากผู้ควบคุมข้อมูลเมื่อใดก็ได้ นอกจากนี้สภานิติบัญญัติแห่งประเทศยุโรปของระเบียบและข้อบังคับได้จัดให้มีบุคคลที่ได้รับผลกระทบที่มีสิทธิ์ในข้อมูลต่อไปนี้:

– วัตถุประสงค์ในการประมวลผล
– ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่กำลังประมวลผล
– ผู้รับหรือประเภทของผู้รับที่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลหรือยังคงมีการเปิดเผยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้รับในประเทศที่สามหรือองค์กรระหว่างประเทศ
– ถ้าเป็นไปได้ระยะเวลาที่วางแผนไว้ซึ่งจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลหรือถ้าเป็นไปไม่ได้เกณฑ์สำหรับกำหนดระยะเวลาดังกล่าว
– สิทธิในการแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อจำกัดของการประมวลผลหรือสิทธิที่จะคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวโดยผู้ควบคุม
– การดำรงอยู่ของสิทธิอุทธรณ์ไปยังหน่วยงานกำกับดูแล
– ถ้าข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้เก็บรวบรวมจากบุคคลที่ได้รับผลกระทบ: ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ในแหล่งที่มาของข้อมูล
– การมีอยู่ของการตัดสินใจโดยอัตโนมัติรวมทั้งการจัดทำโปรไฟล์ตามข้อ 22 (1) และ (4) GDPR และอย่างน้อยที่สุดในกรณีเหล่านี้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตรรกะที่เกี่ยวข้องและขอบเขตรวมถึงผลกระทบที่ตั้งใจไว้ของการประมวลผลดังกล่าวในบุคคลที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้บุคคลที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกส่งไปยังประเทศที่สามหรือองค์กรระหว่างประเทศหรือไม่ หากเป็นกรณีดังกล่าวบุคคลที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการรับประกันที่เหมาะสมในส่วนที่เกี่ยวกับการโอนข้อมูล

หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบประสงค์จะใช้สิทธิ์นี้ในข้อมูล เขาสามารถติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา

บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ์ที่ได้รับจากสภานิติบัญญัติแห่งประเทศยุโรปเพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับตัวเขาทันที นอกจากนี้บุคคลที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิที่จะขอให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์รวมทั้งโดยการประกาศเสริมโดยคำนึงถึงจุดประสงค์ในการประมวลผล

หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบประสงค์จะใช้สิทธิในการแก้ไขนี้เขาสามารถติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา

บุคคลใดที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะมีสิทธิที่ได้รับจากผู้สภานิติบัญญัติแห่งสหภาพยุโรปเกี่ยวกับระเบียบและข้อบังคับเพื่อกำหนดให้ผู้ควบคุมควบคุมลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเขาออกโดยทันทีหากเหตุผลข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้มีผลบังคับใช้และการประมวลผลไม่จำเป็นต้องใช้:

– ข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวหรือได้รับการประมวลผลเป็นอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป
– บุคคลที่ได้รับผลกระทบยกเลิกการยินยอมให้ประมวลผลข้อมูลซึ่งประมวลผลตามข้อ 6 (1) (a) GDPR หรือข้อ 9 (2) (a) GDPR และไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายอื่น ๆ สำหรับการประมวลผล
– บุคคลที่ได้รับผลกระทบคัดค้านการประมวลผลตามข้อ 21 ย่อหน้าที่ 1 GDPR และไม่มีเหตุผลอันควรที่เอาชนะได้สำหรับการประมวลผลหรือบุคคลที่ได้รับผลกระทบคัดค้านตามข้อ 21 ย่อหน้า GDPR 2
– ข้อมูลส่วนบุคคลถูกประมวลผลโดยผิดกฎหมาย
– จำเป็นต้องมีการลบข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับทางกฎหมายภายใต้สหภาพหรือกฎหมายของประเทศที่ผู้ควบคุมต้องปฏิบัติตาม
– ข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการรวบรวมเกี่ยวกับการให้บริการโดยสังคมสารสนเทศตามข้อ 8 ย่อหน้าที่ 1 GDPR

หากเป็นไปตามเหตุผลดังกล่าวข้างต้นข้อใดข้อหนึ่ง บุคคลที่ได้รับผลกระทบประสงค์จะลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ “คาร์สท์” เก็บไว้อาจติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา
ผู้ควบคุมจะจัดให้มีการดำเนินการตามคำขอลบทันที

หากข้อมูลส่วนบุคคลถูกเปิดเผยโดย “คาร์สท์” และสำนักงานของเราจำเป็นต้องลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในฐานะผู้รับผิดชอบตามข้อ 17 (1) GDPR “คาร์สท์”จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมรวมถึงด้านเทคนิคโดยคำนึงถึงเทคโนโลยีที่มีอยู่และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพื่อแจ้งให้ผู้ควบคุมรายอื่น ๆ ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เผยแพร่ต่อสาธารณชน เพื่อแจ้งผู้ควบคุมเหล่านั้นทราบว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ขอให้ลบลิงก์ทั้งหมดที่นำไปสู่ข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือสำเนาหรือทำซ้ำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่การประมวลผลไม่จำเป็น เจ้าหน้าที่ควบคุมของ “คาร์สท์” จะดำเนินการตามความจำเป็นในแต่ละกรณี

บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับสิทธิ์ตามคำสั่งของยุโรปและหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อกำหนดให้ผู้ควบคุมควบคุมจำกัดการประมวลผลหากมีเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:
– ความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลถูกโต้แย้งโดยบุคคลที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้ผู้ควบคุมสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลได้
– การประมวลผลไม่ชอบด้วยกฎหมาย บุคคลที่ได้รับผลกระทบปฏิเสธที่จะลบข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้จำกัดในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทน
– ผู้ควบคุมไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการประมวลผลอีกต่อไป แต่บุคคลที่ได้รับผลกระทบต้องการให้พวกเขายืนยัน ใช้ หรือปกป้องสิทธิของตน
– บุคคลที่ได้รับผลกระทบคัดค้านการดำเนินการตามข้อ 21 ย่อหน้าที่ 1 GDPR และยังไม่ชัดเจนว่าเหตุผลที่ถูกกฎหมายของผู้ควบคุมมีน้ำหนักเกินกว่าที่เหตุผลของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ

หากเป็นไปตามข้อใดข้อหนึ่งดังกล่าวข้างต้น บุคคลที่ได้รับผลกระทบประสงค์จะขอให้จำกัดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บไว้ที่ “คาร์สท์” เขาอาจติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา ผู้ควบคุมจะเริ่มต้นการจำกัดการประมวลผล

บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะมีสิทธิที่จะได้รับจากสภานิติบัญญัติแห่งสหภาพยุโรปเกี่ยวกับระเบียบและข้อบังคับในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเขาที่ให้แก่ผู้ควบคุมโดยบุคคลดังกล่าวในรูปแบบที่มีรูปแบบทั่วไปและสามารถอ่านได้ด้วยตัวเครื่อง นอกจากนี้เขายังมีสิทธิ์ที่จะถ่ายโอนข้อมูลนี้ไปยังผู้ควบคุมอื่นโดยปราศจากอุปสรรคจากผู้ควบคุมหากการประมวลผลดำเนินการบนพื้นฐานของความยินยอมตามข้อ 6 (1) (a) GDPR หรือข้อ 9 (2) (a) GDPR หรือตามสัญญาตาม ข้อ 6 (1) (b) GDPR และการประมวลผลจะดำเนินการโดยวิธีการอัตโนมัติเว้นแต่การประมวลผลจำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนหรือในการใช้อำนาจอย่างเป็นทางการซึ่งได้รับมอบหมายให้ผู้ควบคุม

นอกจากนี้ในการใช้สิทธิในการพกพาข้อมูล บุคคลที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิที่ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกส่งโดยตรงจากผู้ควบคุมหนึ่งไปยังผู้ควบคุมอื่นตามข้อ 20 ย่อหน้าที่ 1 GDPR เท่าที่เป็นไปได้ในทางเทคนิคและระบุว่าสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นจะไม่ได้รับผลกระทบ
ในการใช้สิทธิในการพกพาข้อมูลบุคคลที่ได้รับผลกระทบอาจติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา

บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับสิทธิ์ตามคำสั่งของยุโรปและหน่วยงานด้านกฎระเบียบเพื่อคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ด้วยเหตุผลที่เกิดจากสถานการณ์เฉพาะของตนโดยอิงตามข้อ 6 (1) (b) . e) หรือ f) GDPR นอกจากนี้ยังใช้กับการจัดทำโปรไฟล์ตามบทบัญญัติเหล่านี้

“คาร์สท์” ไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีการคัดค้าน ยกเว้นกรณีที่เราสามารถสร้างฐานที่ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับการประมวลผลที่น่าสนใจซึ่งมีน้ำหนักกว่าผลประโยชน์ สิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่ได้รับผลกระทบหรือให้บริการในการประมวลผล การยืนยัน การใช้สิทธิ หรือการป้องกันการเรียกร้องทางกฎหมาย

หาก “คาร์สท์” ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อใช้งานจดหมายโดยตรง บุคคลที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ตลอดเวลาเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาดังกล่าว นอกจากนี้ยังใช้กับโปรไฟล์เช่นเดียวกับที่เกี่ยวข้องกับจดหมายโดยตรงดังกล่าว หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการตลาดแบบตรง “คาร์สท์” จะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้อีกต่อไป

นอกจากนี้บุคคลที่ได้รับผลกระทบมีสิทธิที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเขา ในขณะที่การประมวลผลดำเนินการโดย “คาร์สท์” เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หรือทางประวัติศาสตร์หรือเพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติตามข้อ 89 ย่อหน้าที่ 1 GDPR สำหรับเหตุผลที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์เฉพาะของบุคคลดังกล่าว เว้นแต่การประมวลผลดังกล่าวเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุผลประโยชน์สาธารณะ

ในการใช้สิทธิในการคัดค้าน บุคคลที่ได้รับผลกระทบอาจติดต่อผู้ควบคุมโดยตรง บุคคลที่ได้รับผลกระทบยังมีอิสระในบริบทของการใช้บริการสังคมสารสนเทศ โดยไม่คำนึงถึง Directive 2002/58 / EC เพื่อใช้สิทธิในการคัดค้านโดยวิธีการอัตโนมัติโดยใช้ข้อกำหนดทางเทคนิค

บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะมีสิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติและกฎระเบียบของสหภาพยุโรปได้กำหนดไว้ไม่ต้องตกอยู่ภายใต้การตัดสินใจที่มีผลตามกฎหมายหรือมีผลกระทบต่อเขาอย่างมีนัยสำคัญในลักษณะที่คล้ายคลึงกันแต่เพียงผู้เดียวในการประมวลผลโดยอัตโนมัติรวมถึงการจัดทำโปรไฟล์ ในกรณีที่การตัดสินใจ
ก) ไม่จำเป็นสำหรับการสรุปหรือการทำสัญญาระหว่างบุคคลที่ได้รับผลกระทบกับผู้ควบคุม หรือ
ข) ได้รับอนุญาตตามกฎหมายของสหภาพหรือรัฐสมาชิกที่ผู้ควบคุมควบคุมขึ้นอยู่และในกรณีที่กฎหมายนั้นมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพรวมทั้งผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของผู้ได้รับผลกระทบ หรือ
ค) ดำเนินการโดยได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากบุคคลที่ได้รับผลกระทบ

เป็นการตัดสินใจ
ก) จำเป็นสำหรับการสรุปหรือการทำสัญญาระหว่างบุคคลที่ได้รับผลกระทบกับผู้ควบคุม หรือ
ข) ดำเนินการโดยได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากบุคคลที่ได้รับผลกระทบ “คาร์สท์” จะต้องมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพรวมทั้งผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของบุคคลที่ได้รับผลกระทบซึ่งรวมถึงอย่างน้อยที่สุดสิทธิในการได้รับการแทรกแซงในส่วนของผู้ควบคุม เพื่อแสดงให้เห็นถึงมุมมองของตัวเองและท้าทายการตัดสินใจ

หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบประสงค์ที่จะบังคับสิทธิในการตัดสินใจโดยอัตโนมัติ เขาอาจติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา

บุคคลใดก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ์ที่ได้รับตามระเบียบและข้อบังคับของยุโรปในการเพิกถอนการยินยอมให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ตลอดเวลา

หากบุคคลที่ได้รับผลกระทบประสงค์จะใช้สิทธิถอนการยินยอมของเขา เขาอาจติดต่อผู้ควบคุมได้ตลอดเวลา

 

13. พื้นฐานทางกฎหมายของการประมวลผล

ข้อ 6 (1) (a) GDPR ให้บริการแก่บริษัทของเราซึ่งเป็นพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการดำเนินการประมวลผลข้อมูลซึ่งเราได้รับความยินยอมสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลเฉพาะ หากจำเป็นต้องมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำสัญญาที่บุคคลที่ได้รับผลกระทบเป็นคู่สัญญา เช่นในการดำเนินการประมวลผลข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจัดหาสินค้าหรือการให้บริการหรือการพิจารณาอื่น ๆ การประมวลผลต้องเป็นไปตามข้อ 6 (1) (b) GDPR เช่นเดียวกับการดำเนินการประมวลผลข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการดำเนินมาตรการก่อนทำสัญญา เช่นในกรณีที่มีการสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา หาก “คาร์สท์” อยู่ภายใต้ข้อผูกมัดทางกฎหมายที่ต้องดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลเช่นการปฏิบัติตามข้อผูกพันทางภาษีการประมวลผลจะขึ้นอยู่กับข้อ 6 (1) (c) GDPR ในบางกรณีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอาจจำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญของบุคคลที่ได้รับผลกระทบหรือบุคคลธรรมดาอื่น กรณีนี้ตัวอย่างเช่นหากผู้เข้าชมสถานที่ของเราได้รับบาดเจ็บ และชื่อ อายุ ประกันสุขภาพหรือข้อมูลสำคัญอื่น ๆ จะต้องถูกส่งให้กับแพทย์ โรงพยาบาล หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ ในกรณีดังกล่าวการประมวลผลจะขึ้นอยู่กับข้อ 6 (1) (d) GDPR ท้ายที่สุดการประมวลผลอาจเป็นไปตามข้อ 6 (1) (f) GDPR บนพื้นฐานทางกฎหมายนี้ การดำเนินการประมวลผลที่ไม่ได้รับการคุ้มครองโดยฐานทางกฎหมายใด ๆ ข้างต้นจะต้องมีถ้าการประมวลผลเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของ “คาร์สท์” หรือบุคคลที่สามเว้นแต่มีความกังวลในผลประโยชน์ สิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลที่เกี่ยวข้องเหนือกว่า การดำเนินการดังกล่าวได้รับอนุญาตโดยเฉพาะเนื่องจากได้รับการกล่าวถึงโดยเฉพาะจากสภานิติบัญญัติของยุโรป ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายหากผู้ให้ข้อมูลนั้นเป็นลูกค้าของผู้ควบคุม (recital 47, ประโยคที่ 2 GDPR).

 

14. ผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายในการประมวลผลที่ผู้ควบคุมหรือบุคคลที่สามดำเนินการอยู่

หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามข้อ 6 (1) (f) GDPR ผลประโยชน์ที่ถูกต้องตามกฎหมายของเราคือการดำเนินธุรกิจของเราเพื่อประโยชน์ของเจ้าของผู้รับเหมาและผู้ถือประโยชน์ร่วมของ “คาร์สท์”

 

15. บุคคลที่รับผิดชอบหรือบุคคลที่ติดต่อของคุณ

หากคุณมีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับการรวบรวม การประมวลผล หรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูล การแก้ไข การบล็อก หรือการลบข้อมูล รวมถึงการเพิกถอนการยินยอมหรือคัดค้านการใช้ข้อมูลโดยเฉพาะโปรดติดต่อ:

 

Kanzlei KARST – Legal & Tax
Dr. Björn Karst
Taunusstraße 46
65719 Hofheim am Taunus
+49 6122 9291199
+49 6122 9298458
info@karst.legal
______________________________________________________________________
As of: 01.01.2024